ฝ้าเกิดจากอะไรและจะดูแลอย่างไร?
ฝ้าคืออะไร?
ไปเที่ยวทะเลทีไร กลับมาฝ้าขึ้นแล้วไม่หายอีกเลย...
ฝ้าเป็นภาวะทางผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็น “ปื้นเข้ม ๆ” ที่ใบหน้าโดยจะพบได้บ่อยที่บริเวณโหนกแก้ม, ที่จมูก, ที่หน้าผากหรือริมฝีปากด้านบน ภาวะนี้มักจะพบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ฝ้าเกิดจากการที่มีการผลิตของเม็ดสีที่มากขึ้นในชั้นผิวหนังแค่บริเวณนั้น ๆ ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากปริมาณการโดนแสงแดด เนื่องจากแสงแดดนั้นกระตุ้นให้เซลล์ผลิตเม็ดสีทำการผลิตเม็ดสีที่มากขึ้นกว่าปกติ นอกจากนี้ยังสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่นฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ดังนั้นขณะที่ตั้งครรภ์หรือทานยาบางชนิดจึงทำให้ความรุนแรงของฝ้ามากกว่าเดิม
การรักษาในปัจจุบันมีได้หลายอย่าง ทั้งการทายา การทาสารลอกผิว และบางครั้งมีการทำเลเซอร์ แต่ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่าฝ้านั้นเป็นภาวะที่รักษาให้หายได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลา และบางครั้งต้องใช้การรักษาหลายประเภทร่วมกันเพื่อให้ได้ผล ซึ่งการรักษาด้วยยาและสารลอกผิวนั้นในบางครั้งก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นการแสบระคายเคืองของผิวหรือการเกิดฝ้าถาวร (ochronosis) ทำให้ต้องมีการกลับมาตรวจติดตามกับแพทย์เรื่อย ๆ เพื่อติดตามเรื่องผลข้างเคียง
หลายคนคงคิดว่า “ตอนนี้เราก็ยังไม่มีฝ้าคงไม่ต้องดูแลอะไรมากหรอกมั้ง?”
ซึ่ง ณ จุด ๆ นี้ MdH ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างมาก เพระาฝ้าเป็นภาวะที่ “สะสม” มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่วัยเด็ก โดยเฉพาะการโดนแดดที่ลุยกันอย่างเต็มที่สมัยเด็ก ๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นจะมาแสดงผลก็ตอนที่อายุมากขึ้น ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น การจะมาดูแล “อาจจะสายไป”
MdH ขอแนะนำวิธีการง่าย ๆ ในการดูแลฝ้า สำหรับผู้ที่ยังมีฝ้าบาง ๆ หรือกังวลว่าตนเองอาจจะจะเกิดฝ้าในอนาคต ด้วยวิธี “ป้องกัน” และ “จัดการ”
1. “ป้องกัน” ผิวจากแสงแดด โดยใช้ครีมกันแดดอย่างเหมาะสม (ซึ่งจะมาแนะนำเรื่องการใช้ครีมกันแดดในบทความหลัง ๆ กัน) ซึ่งการป้องกันแสงแดดนี้ นอกจากจะลดการเกิดฝ้าแล้วยังสามารถลดความแก่ของผิวหรือความเหี่ยวย่นที่เกิดจากการทำลายของแสง UV ได้ด้วย
2. “จัดการ” กับฝ้าอย่างเด็ดขาดตั้งแต่เริ่ม โดยสำหรับผู้ที่เพิ่งมีฝ้าบาง ๆ หรือเพิ่งไปโดนแดดอย่างจัง ๆ มาและอยากป้องกัน แต่กลัวการใช้ยาหรือสารลอกผิว สามารถดูแลผิวด้วยการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่สามารถ
- ยับยั้ง เอนไซม์ผลิตเม็ดสีในเซลล์ผลิตเม็ดสี
- ยับยั้ง การขนส่งเม็ดสีมาสู่ผิวหนังชั้นบน
- ลด การสร้างเม็ดสี
ซึ่งหลังจากทราบหลักการในการดูแลฝ้าและทราบความกังวลที่หลาย ๆ ท่านที่ไม่อยากใช้ยาในการรักษา ทาง MdH จึงได้รวบรวมสารสกัดจากหลายมุมโลกที่ออกฤทธิ์ได้ตามข้อด้านบนเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน จึงได้ออกมาเป็น MdH Vividerm serum (คลิกเพื่อดูรายละเอียดเต็ม ๆ ได้เลยครับ)
โดยสรุป ฝ้านั้นสามารถหายได้แต่อาจต้องใช้เวลาเพื่อแก้สิ่งที่สะสมมาตั้งแต่ตอนเด็ก MdH หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุก ๆ ท่านจะคลายกังวลหรือคลายความสงสัยเรื่องฝ้ากันไปได้ ไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วพบกันใหม่ในตอนถัด ๆ ไปครับ