PM 2.5 ฝุ่นจิ๋วตัวร้ายทำลายผิวหน้า
PM 2.5 ฝุ่นจิ๋วตัวร้ายทำลายผิวหน้า
นอกจาก “ปอดและจมูก” ที่พังแล้ว “ผิวของคุณ” ก็พังจาก PM 2.5 นี้ได้ไม่ต่างกัน
คำว่า PM 2.5 นี้ ทุกคนคงได้ยินกันมาบ่อยมาก ๆ เช่น “PM 2.5 อันตราย” “PM 2.5 ทำให้เป็นมะเร็ง” “PM 2.5 ทำลายปอด” แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจาก “ปอดและจมูก” ที่พังแล้ว “ผิวของคุณ” ก็พังจาก PM 2.5 นี้ได้ไม่ต่างกัน
ลองถามตัวเองว่าเหตุการณ์พวกนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวเองบ้างไหม? ทั้งผื่นคันที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สิวผด สิวอักเสบ ผิวหมองคล้ำ หรือแม้แต่ผมร่วง
PM 2.5 คืออะไร?
PM 2.5 นั้นเป็นละอองฝุ่นขนาดเล็กมาก ๆ (ขนาด 2.5 ไมครอน) หรือประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผม ซึ่งนอกจากจะเข้าทางการสูดอากาศหายใจโดยตรงแล้วยังสามารถ "แทรกซึม" ผ่านทางผิวหนังได้อีกด้วยนะครับ มันส่งผลกระทบต่อผิวหนังได้โดยตรงทั้งเป็นแบบ "เฉียบพลันและแบบเรื้อรัง" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มี "โรคผิวหนังหรือเป็นภูมิแพ้" อยู่เดิมแล้วก็จะเป็นมากขึ้น
- 1. "ระยะเฉียบพลัน" จะเกิดจากการ "อุดตันและระคายเคือง" โดยตรงทำให้ผิวหนังอักเสบเป็นสิวหรือผื่นแพ้คันได้ ฝุ่น PM 2.5 เพียงแค่ระดับ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นการอักเสบนี้ได้แล้ว และลองหันไปดูในโทรศัพท์ดูว่า ตอนนี้ต่างระดับไปมาก
- 2. "ระยะเรื้อรัง" จะเกิดเมื่อได้รับต่อเนื่องเป็นเวลานานเพราะ PM 2.5 จะก่อให้เกิด "สารอนุมูลอิสระ" ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายเซลล์ผิวมนุษย์อย่างรุนแรงทำให้เซลล์ผิว "เสื่อมสภาพและชรา" ลงเกิดริ้วรอยใบหน้าผิวหมองคล้ำและผมร่วงได้ด้วย
เราจะสามารถป้องกันผลของ PM 2.5 นี้ได้อย่างไรบ้าง?
การป้องกันเบื้องต้นสามารถทำได้ ดังนี้
1. งดการออกไปในบริเวณที่มีฝุ่นเยอะหรือสัมผัสให้สั้นที่สุด
2. สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นและใส่เสื้อผ้าปกคลุมร่างกายให้มิดชิด
ในส่วนของผิวหนัง เราควรดูแลไม่ให้เกิดผลที่ตามมาจาก PM 2.5 ดังนี้
1. ทาครีมกันแดดร่วมกับครีมบำรุงผิวหรือเวชสำอางที่มีที่มีฤทธิ์ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพด้วยที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตันของผิว
2. ดื่มน้ำมาก ๆ ร่วมกับการรับประทานวิตามินและสารสกัดที่มีฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระสูง ๆ เช่น วิตามิน C วิตามิน E สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape seed extract) สารสกัดจากโรสฮิป (Rosehip extract) สารสกัดจากผลไม้รสเปรี้ยวรวมถึงโคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q-10) เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าไม่ใช่แค่ปอดเราที่โดนทำร้าย ผิวเราก็แย่ไปด้วย เมื่อรู้สาเหตุแล้วก็อย่ารอช้า รีบป้องกันและบำรุงกันเถอะครับ
